เรื่อง
สภาพเหตุการณ์ปลายสมัยธนบุรี
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากุ
กรมหลวงนรินทรเทวี พระธิดาลำดับที่ 6 ในสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก
ประสูติจากพระน้องนางของพระอัครมเหสี (หยก) เป็นพระน้องนางเธอต่างพระชนนี ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
ประสูติในสมัยกรุงศรีอยุธยา
เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงปราบดาภิเษกเป็นปฐมกษัตริย์แห่งพระราชวงศ์จักรี
ทรงสถาปนาท่านขึ้นเป็น พระองค์เจ้าหญิงกุ วังของพระองค์เจ้าหญิงกุ
อยู่ติดกับวัดพระเชตุพน (วัดโพธิ์) อีกทั้งขณะยังคงพระชนม์ชีพ
พระองค์เจ้าหญิงกุยังมิได้ทรงกรม ชาววังจึงเอ่ยพระนามว่า เจ้าครอกวัดโพธิ์
พระองค์เจ้าหญิงกุ
ทรงบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ในช่วงปลายกรุงศรีอยุธยาตั้งแต่ พ.ศ. 2310 ถึง พ.ศ. 2363
ในช่วงรัชกาลที่ 2 โดยสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงพบบันทึกจำนวนหนึ่งเล่มสมุดไทย
เมื่อ พ.ศ. 2451 โดยไม่ทราบ ว่าใครเป็นผู้แต่ง และได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชวินิจฉัยว่า ผู้แต่งน่าจะเป็นกรมหลวงนรินทรเทวี
และทรงตั้งชื่อหนังสือนี้ว่า "จดหมายเหตุความทรงจำของพระเจ้าไปยิกาเธอ กรมหลวงนรินทรเทวี (เจ้าครอกวัดโพธิ์)
ตั้งแต่จุลศักราช 1129 ถึงจุลศักราช 1182 เป็นเวลา 53 ปี"
พระองค์เจ้าหญิงกุ
สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ 3 เมื่อปีกุน จ.ศ.1189 ตรงกับ พ.ศ. 2370 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้า
ฯ ให้สถาปนาพระอัฐิเป็นกรมหลวงนรินทรเทวี
และเจ้านายที่สืบเชื้อสายจากพระองค์ถือว่าอยู่ใน “ราชสกุลนรินทรกุล”
บันทึกของพระองค์เจ้าหญิงกุกรมหลวงนรินทรเทวีกล่าวถึงสภาพเหตุการณ์ปลายสมัยธนบุรีไว้
ดังนี้
“.......อยู่ภายหลังกรุงธนบุรีเกิดโกลี
พันศรีพันลาเป็นต้นฟ้องว่า ขุนนางและราษฎรขายข้าวเกลือลงสำเภา
โยธาบดีผู้รับฟ้องกราบทูล รับสั่งให้เร่งเงินที่ขุนนางราษฎรขายข้าวเกลือ
ให้เฆี่ยนเร่งเงินเข้าท้องพระคลัง ร้อนทุกเส้นหญ้า สมณราษฎรไม่มีสุข
ยุคเข็ญเป็นที่สุดในปลายแผ่นดิน เงินในคลังในหาย 2,000 เหรียญๆ ละ 1 บาท 3 สลึง 1
เฟื้อง แพรเหลือง 10 ม้วน รับสั่งเรียกหาไม่ได้
ชาวคลังต้องเฆี่ยนใส่ไฟย่างแสนสาหัส ท่านสงสัยว่าข้างในขโมยเงินในคลัง จนพระมาตุจฉาพระพี่นางเธอให้จำหม่อมเจ้านัดดาแทนมารดาเจ้าแทนอยู่งาน
คนรำใหญ่ให้เฆี่ยนคนละ 150 คนละ 100 คนละ 50 คนรำเล็กให้พ่อให้แม่พี่น้องทาสรับพระราชอาญา
100 ให้เจ้าตัวแต่คนละ 20 ที คนละ 10 ทีตามรับสั่ง
หลวงประชาชีพ โจทก์ฟ้องว่าขายข้าว
รับสั่งให้ตัดศีรษะหิ้วเข้ามาถวายที่เสด็จออกทอดพระเนตร เหตุผลกรรม ของสัตว์ พื้นแผ่นดินร้อน ราษฎรเหมือนผลไม้
เมื่อต้นแผ่นดินเย็นด้วยพระบารมี ชุ่มพื้นชื่นผลจนมีแก่น ปลายแผ่นดิน แสนร้อนรุมสุมรากโคน
โค่นล้มถมแผ่นดินด้วยสิ้นพระบารมีแต่เพียงนั้น
ผู้รักษากรุงเก่าพระชิตณรงค์ผูกขาดขึ้นไปจะเร่งเงินไพร่แขวงกรุงเก่าให้ได้โดยจำนวน
500 ชั่ง เร่งรัดไพร่เมืองยากครั้งนั้นสาหัส.......”
(จิระพันธ์ ชาติชินเชาวน์ รวบรวม)
ข้อมูลเนื้อหาจาก หน่วยการเรียนรู้ที่3 วิชาประวัติศาสตร์ ชั้น ม.2
ข้อมูลเนื้อหาจาก หน่วยการเรียนรู้ที่3 วิชาประวัติศาสตร์ ชั้น ม.2
บริษัทอักษรเจริญทัศน์ อจท. http://www.aksorn.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น