ข้อสอบกลางภาค วิชา เทคโนโนโลยีสารสนเทศ ชั้น ม.2 วันที่ 9/4/2556

ข้อสอบเป็นแบบเลือกตอบ  จำนวน 40 ข้อ  ให้เลือกกากบาทคำตอบที่ถูกที่สุด

1. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่และความสามารถของซอฟต์แวร์ประเภทประมวลผลคำ (Word Processing)

ก.สร้างเอกสาร                       ข. แก้ไขเอกสาร

ค.แทรกภาพในเอกสาร              ง. ติดต่อสื่อสารระยะไกลด้วย e- mail

2. ซอฟต์แวร์ในข้อใดที่พัฒนาขึ้นให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานโดยตรง

ก. ซอฟต์แวร์สำเร็จรูป               ข. ซอฟต์แวร์ใช้งานเฉพาะ

ค. ซอฟต์แวร์ระบบ                  ง. ซอฟต์แวร์ประยุกต์

3. ตัวแปลภาษาในข้อใด ที่มีการแปลภาษาเป็นแบบคอมไพเลอร์

ก. ภาษาเครื่อง                      ข. ภาษาแอสเซมบลี

ค. ภาษาเบสิก                       ง. ภาษาปาลคาล

4.เพาเวอร์พอยต์ เป็นซอฟต์แวร์ในกลุ่มใด

ก. ซอฟต์แวร์ตารางการทำงาน     ข. ซอฟต์แวร์นำเสนอ

ค. ซอฟต์แวร์ประมวลผลคำ         ง. ซอฟต์แวร์สื่อสารข้อมูล

5. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่หลักของซอฟต์แวร์ระบบ

ก. ใช้ในการจัดการหน่วยรับเข้าและหน่วยส่งออก             

ข. ใช้ในการจัดการหน่วยความจำ

ค. ใช้เป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้งานกับคอมพิวเตอร์      

ง. ใช้ในการแปลและจัดเก็บข้อมูล

6. โปรแกรมวินโดวส์ ถือเป็นซอฟต์แวร์ประเภทใด

ก. ซอฟต์แวร์ระบบ                           ข. ซอฟต์แวร์ประยุกต์

ค. ซอฟต์แวร์สำเร็จ                           ง. ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นใช้งานเฉพาะ

7. ดอส เป็นซอฟต์แวร์จัดระบบงานที่ใช้คำสั่งแบบใด

ก. ตัวอักษร                                   ข. ตัวเลข

ค. แถบแม่เหล็ก                               ง. ตัวอักษรและตัวเลขร่วมกัน

8. ข้อใดคือซอฟต์แวร์ที่ใช้เฉพาะงาน

ก. ระบบการเก็บข้อมูล                       ข. ระบบงานทางด้านบัญชี

ค. ระบบการจัดส่งเมล์อิเล็กทรอนิกส์        ง. ระบบการส่งถ่ายข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์

9.เป็นชื่อซอฟต์แวร์ประเภท Spreadsheet Software

    ก. Microsoft Access                      ข. Microsoft Excel

    ค. Microsoft Word                        ง. Microsoft PowerPoint

10. ตัวแปลภาษาในข้อใดที่มีการแปลภาษาเป็นแบบอินเตอร์พรีเตอร์

ก. ภาษาเครื่อง                                ข. ภาษาแอสเซมบลี

ค. ภาษาเบสิก                                 ง. ภาษาปาลคาล

11. การสื่อสารข้อมูลหมายถึงอะไร

ก. การติดต่อกันระหว่างผู้รับข้อมูลและผู้ส่งข้อมูล

ข. การแลกเปลี่ยนโอนย้ายข้อมูลระหว่างสถานที่ 2 แห่ง 

ค. การถ่ายโอนข้อมูลโดยผ่านช่องทางการสื่อสารระหว่างผู้รับและผู้ส่ง

การถ่ายทอดข้อมูลจากแหล่งหนึ่งไปยังอีกแหล่งหนึ่ง

12.รูปแบบของการส่งสัญญาณข้อมูล มีกี่แบบ

ก. 2
ข. 3
ค. 4
ง. 5

13. ข้อใดเป็นรูปแบบของการส่งสัญญาณแบบทิศทางเดียว

ก. น้องปิ่นคุยโทรศัพท์กับปะป๋า
ข. พี่ต่อฟังวิทยุทุกวัน
ค. พี่เต้ยใช้วิทยุสื่อสาร
ง.  พี่ต้นใช้โทรศัพท์มือถือเล่น Chat

14. นักเรียนจะเลือกใช้สื่อนำข้อมูลชนิดใดหากนักเรียนมีวงเงินจำกัด

ก. สาย Unshielded Twisted Pair
ข. สาย Shield Twisted Pair
ค. สาย Coaxial 
ง. สาย Fiber Optic Cable

15. สายนำสัญญาณที่ประกอบด้วยแกนทองแดงเส้นเดียว หุ้มด้วยฉนวนและสายดิน 

   แล้วหุ้มด้วยฉนวนบางอีกชั้นหนึ่ง เป็นลักษณะของสายนำสัญญาณชนิดใด
ก. สาย Coaxial                                                

ข. สาย Shield Twisted Pair
ค. สาย Unshielded Twisted Pair                

ง. สาย Fiber Optic Cable

16. การพูดโทรศัพท์ เป็นการสื่อสารแบบใด

ก. แบบกึ่งทางคู่หรือครึ่งดูเพล็กซ์ (Half-Duplex)

ข. แบบทางคู่หรือดูเพล็กซ์เต็ม (Full-Duplex)
ค. แบบทิศทางเดียวหรือซิมเพล็กซ์ (One-way หรือ Simplex)
ง. แบบทางตรง

17. ข้อใดไม่ใช่วัตถุประสงค์ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์

ก.  เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการทำงาน
ข.  เพื่อใช้ทรัพยากรร่วมกัน
ค.  เพื่อให้ผู้ใช้สามารถติดต่อพูดคุยระหว่างกัน
ง.  เพื่อใช้ข้อมูลแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน

18. ถ้านักเรียนต้องการติดตั้งเครือข่ายเพื่อใช้ร่วมกันภายในอาคารหรือบริเวณเดียวกัน
   ควรใช้เครือข่ายแบบใด  

ก. MAN                             ข. LAN
ค. WAN                             ง. PAN

19. รูปแบบการเชื่อมต่อแบบใดทีมี Host Computer เป็นเครื่องศูนย์กลาง

ก. Bus Topology                ข. Star  Topology
ค. Ring Topology               ง.  Hybrid  Topology

20. Demodulation เป็นการแปลงสัญญาณใดไปเป็นสัญญาณใด

ก. แอนะล็อก > อินฟาเรด         ข. ดิจิตัล > อินฟาเรด  
ค. อนาล็อก > ดิจิตัล               ง. อินฟาเร็ด > ดิจิตัล

 

          21. อินเตอร์เน็ตหมายถึงข้อใด

ก.  เป็นเครือข่ายของการสื่อสารข้อมูลขนาดใหญ่
ข.  เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์จำนวนมาก
ค.  เป็นการเชื่อมโยงแหล่งข้อมูลจากองค์กรต่างๆ ทั่วโลก
ง.  ถูกทุกข้อ 

22. ประเทศไทยได้เริ่มมีการติดต่อเชื่อมโยงอินเตอร์เน็ตในปี พ.ศ. ใด

ก.  พ.ศ. 2532                                          ข.  พ.ศ. 2533
ค.  พ.ศ. 2535                                          ง.  พ.ศ. 2537

23. โดเมนเนมที่ลงท้ายด้วย .ac.th  ใช้สำหรับงานใด

ก.  สำหรับสถานศึกษาในประเทศไทย
ข.  สำหรับหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล
ค.  สำหรับหน่วยงานที่ไม่แสวงหาผลกำไร
ง.  สำหรับบุคคลทั่วไป

24. อินเตอร์เน็ต ถูกพัฒนามาจากระบบเครือข่าย

ก. Micro Net                                           ข. NECTEC

ค. MILNET                                              ง. ARPANET

25.บริการซื้อขายสินค้าบนอินเตอร์เน็ต

ก. E-mail                                               ข. E-Learning

ค. E-Commerce                                       ง. E-Library

26. ข้อใดคือความหมายของ โมเด็ม (Modem)

ก.  อุปกรณ์ที่ใช้ในการแปลงสัญญาณ                 ข.  อุปกรณ์ในการกระจายสัญญาณ
ค.  อุปกรณ์ในการบันทึกสัญญาณ                     ง.  อุปกรณ์ในการสร้างเครือข่าย

27. ข้อใดเป็นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบไร้สาย

ก.  อินเตอร์เน็ตรายบุคคล                             ข.   อินเตอร์เน็ตแบบมีส่วนร่วม
ค.  ผ่านโทรศัพท์มือถือโดยตรง                        ง.  อินเตอร์เน็ตแบบขององค์กร

28. E-mail (Electronic mail) หมายถึงอะไร

ก.  บริการกระดานข่าว                                ข.  บริการโอนย้ายไฟล์
ค.  จดหมายอิเล็กทรอนิกส์                            ง.  ห้องสนทนา

29.URL หมายถึงข้อใด

ก. ที่อยู่ของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต                    ข. ที่อยู่อีเมล์

ค. หน้าแรกของเว็บไซต์                                ง. ตำแหน่งที่อยู่ของเว็บไซต์

30. ข้อใดไม่ใช่มารยาทการในใช้อินเตอร์เน็ต

ก.  ไม่ใช้ข้อความหยาบคาบในการส่งข้อความ
ข.  ไม่ใช้ภาพที่ไม่เหมาะสม
ค.  ไม่ควรใช้ตัวอักษรพิมพ์ตัวอย่างใหญ่หมด
ง.  ไม่ควรเคารพในสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น 

 

31. ข้อใด ไม่ใช่ หลักการแก้ปัญหาโดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์

    ก. การเก็บรวบรวมข้อมูล                          ข. การตั้งสมมติฐาน

    ค. การทดสอบสมมติฐาน                           ง. การสร้างโปรแกรม

32. การสร้างแบบจำลองในการแก้ปัญหานั้น เป็นการแก้ปัญหาโดยแบบใด

    ก. แบบวิทยาศาสตร์                               ข. แบบวิศวกรรม

    ค. แบบสร้างสรรค์                                 ง. แบบกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ

33. ข้อใดเป็นขั้นตอนแรกในการพัฒนาโปรแกรม เพื่อใช้ในการแก้ปัญหา

    ก. การวิเคราะห์งาน                                ข. การเขียนผังงาน

    ค. การเขียนคำสั่งซูโดโค้ด                          ง. การเขียนโปรแกรม

 3 4. ความหมายของคำว่าขั้นตอนวิธี (Algorithm) คือข้อ

ก. การทำความเข้าใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น

ข. การอธิบายลำดับขั้นตอนการทำงานเป็นข้อ ๆ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกถึงขั้นตอนสุดท้าย

ค. การหาวิธีการที่ถูกต้องในการแก้ไขปัญหา

ง. การทดสอบลำดับขั้นตอนของวิธีการที่ใช้ในการแก้ปัญหา

35. ถ้าต้องการนำเครื่องคอมพิวเตอร์มาช่วยในการคำนวณหาค่าของพื้นที่สามเหลี่ยม จากสูตร

 พื้นที่สามเหลี่ยม = ½ x ความยาวฐาน x ความสูง ข้อมูลที่ต้องส่งเพื่อเป็นข้อมูลเข้า

แก่เครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาคือข้อมูลในข้อใด

ก. พื้นที่ของสามเหลี่ยม, ความยาวฐาน

ข. พื้นที่ของสามเหลี่ยม, ความสูง

ค. ความยาวฐาน, ความสูง

ง. พื้นที่ของสามเหลี่ยม, ความยาวฐาน, ความสูง

36.ข้อใดเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง สำหรับการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยสำหรับการแก้ปัญหา

ก. อยู่หน้าเครื่องแล้วทดลองเขียนโปรแกรม

ข. หาวิธีการแก้ไขปัญหาก่อน

ค. เขียนเอกสารที่เป็นลำดับขั้นตอนการทำงาน เพื่อความสะดวกในภายหลัง

ง.  เรียบเรียงลำดับการทำงานทั้งหมด

37. ข้อใดเป็นขั้นตอนลำดับสุดท้ายในการพัฒนาโปรแกรม เพื่อใช้ในการแก้ปัญหา

 ก. การวิเคราะห์งาน                                 ข. การเขียนผังงาน

 ค. การเขียนคำสั่งซูโดโค้ด                           ง. การเขียนโปรแกรม

38.  สัญลักษณ์สี่เหลี่ยมด้านขนานใช้ในขั้นตอนใด                                    

  ก. แสดงค่า                                          ข.  รับค่า                                             

  ค.  ประมวลผล                                      ง.  เริ่มต้น 

39. ข้อใดเป็นตัวอย่างการแก้ปัญหาทางวิศวกรรม

    ก. การออกแบบผลิตภัณฑ์                         ข. การออกแบบหุ่นยนต์

    ค. การออกแบบอาคาร                             ง. ถูกต้องทุกข้อ

40. การนำกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ เข้ามาใช้ในการแก้ปัญหานั้น โดยมีวัตถุประสงค์ใด

    ก. เพื่อความรวดเร็วในการทำงาน                  ข. เพื่อความถูกต้อง

    ค. สามารถทำงานซ้ำๆ ได้ง่ายขึ้น                   ง. ถูกต้องทุกข้อ